วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

วันครู

วันครูของประเทศไทย
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุม จรรยาและวินัยของครูรักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัว ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู

ด้วยเหตุนี้ในทุกปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และชักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคียาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

ปี พ.ศ. 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

"ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณ เป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมี สักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพ สักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับ คนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละ ทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"

จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึก ถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมากในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอ คณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริม ความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน

การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุ

สรุปความคิดเห็น

จากการที่ได้ทำการสำรวจจากบทความที่แล้วพบว่า

ผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นได้คิดต่างกันซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นวงเกาหลีดังๆที่มาดังในเมืองไทย
และเข้าถึงวัยรุ่นได้ง่าย
ส่วนนักร้องเกาหลีที่มาแสดงความคิดเห็นนั้นต่างก็...น่าตาดี

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วงเกาหลีวงอะไร ที่คุณคิดว่าหล่อ น่ารัก ที่สุด~ >_<















ความคิดเห็นมาเลย ไม่จำกัดค่าย
ทั้งเอสเอ็มทาวน์ หรือเจวายพี และอื่นๆ
ทั้งวงเอสเจ ดงบัง บิ๊กแบง อะไรก็แล้วแต่
คุณคิดว่าวงอะไรควรได้รับรางวัล นักร้องดีเด่น (เอาเป็นเกาหลีนะ)...





วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552











บังเอิญเราชอบการ์ตูนแนวนี้นะ
แต่ว่าวาดไม่เป็น -___- แต่ก็ยังฝึกวาดอยู่
ต้องวาดให้ได้...

การ์ตูนมันเป็นยังไงก็ลองหาในกูเกิ้ลดูนะ และการ์ตูนมันก็เป็นแนวเหมือนบล็อกอันต่อๆไปของเราเอง

เราได้เรื่องนี้มาจากเว็บๆหนึ่ง เดี๋ยวจาบอกให้ทีหลัง

เข้าเรื่องเลยจะดีกว่านะ
ไปกันเลย




ความจริงของนักวาดการ์ตูนแนว Moe !!!

เรื่องจริงที่ควร(จะ)เชื่อดี(ใหม) จากการวิจัยสาระพัดนาๆ ชนิดๆ ทั้งทางจิตวิทยา วิทยาศาตร์ ไสยศาตร์ โหราศาตร์ และสาระพัด สาดด - -" จึงได้ผลดังนี้

1. นักวาดส่วนใหญ่เป็นทั้งหญิงและชายก็ได้ แต่ถ้าเป็นเพศชายวาดจะสื่อรูปทรงของผู้หญิงได้ดีกว่าหญิงวาดซะอีก (เอ๋...)

2. เชื่อหรือไม่ว่า ก่อนที่เจ้าตัวจะมาวาดแนวนี้ ในเครื่องคอมคงมีรูปพวกนี้จากคนอื่นไม่ต่ำกว่า 50 รูปขึ้น

3. Lolicon เป็นสิ่งที่นักวาดแนวนี้ชอบวาด (เชื่อเถอะ เห็นมาเยอะแล้ว - -")

4. Moe กะ เซอวิทเป็นของคู่กัน จะไม่แปลกเลย ถ้าเห้นรูปแนวนี้มีกางเกงในเปิด หรือเห็นชั้นใน . . . (9ใน10ของผู้ชม ส่วนใหญ่เห็นอย่างงั้นนะ)5. วาดคนแก่หรือคนมีอายุไม่เป็น . . .

6. วาดผู้ชายลายละเอียดน้อยกว่าตัวผู้หญิง (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงวาด)

7. วาดเป็นแล้วเลิกยาก (เหมือนติดยา)

8. ไม่รู้จักพอ อยากวาดอะไรแปลกๆ หรือสาวๆ นุ้งน้อยห่มน้อย

9. ชอบวาดหญิงหน้าอกแบนมากกว่าน่าอกตูม . . . (เหมือนข้อ 3. โหยยย ไอ้พวกนางงาม "รักเด็ก")

10. สำหรับผู้ชาย มักคิดว่าตัวเองเป็นหญิงเหมือนในตัวละครที่เราวาด

11. สำหรับหญิง มักคิดว่าตัวเองเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ (ยังไงหว่า - -")

12. เกมส์ที่นิยมส่วนใหญ่เป้นเกมส์แนวแฟนตีซีซะส่วนใหญ่ แต่ต้องเป็นสาวน้อย จะมีบางพวกหลุดไปเล่นเกมส์สงครามหรือยิงกันเลือดสาด นั้นก็ไปอีกเรื่อง - -"

13. ไม่นิยมวินนิ่ง . . .

14. "สะพานเหล็ก"คือ "สวรรค์"

15. คำว่า H รู้จักว่าแปลว่าอะไร และเป็นคำวงใน อิอิ (จ้างให้ก็ไม่บอก)16. อย่าให้วาดรูปแนว K เชียว เพราะจะไม่ได้อารมณ์เลยละ

17. ปากบอกว่าวาดไม่เป็นแนว Moe ทั้งที่ในคอมเก็บรูปมาเยอะ (น่าจะลองวาดดูดิ -*-)

18. เข้าใจหัวอดผู้หญิงได้ดีกว่า ผู้ชายที่ไม่เคยได้สัมผัสแนวนี้ (เชื่อเถอะ ใครมีแฟนเป็นแนวนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่เข้ากัน)

19. ยะโอย เป็นแนวที่ พวกนี้ Anti ที่สุด (สยอง)

20. แต่ Yuri รับได้ . . .ความจริงของนักวาดการ์ตูนแนว Moe2 !!!ต่อๆ ด้วยความมันมือ เหอะๆ

21. เริ่มดีไซพวกชุดๆ ต่างๆ เก่งขึ้น (เพราะตัวละครหญิงน่ะ) [ลองวาดไปนานๆ เข้าจะรู้เลยว่าออกแบบชุดสวยขึ้น จริงๆน่ะ -*-]

22. ตัวละครหญิงที่วาดได้จะอยู่ประมาณอายุ 12 - 22 ถ้ามากกว่านี้จะวาดไม่ได้ (เหมือนข้อ 5. วาดคนมีอายุไม่เป็น)

23. เริ่มหันมาคุยหรือเข้ากลุ้มกับพวกผู้หญิง ต่างกับคนเสพที่เริ่มออกห่างจากโลกภายนอก - -"

24. เคยเล่นเกมส์ H มาก่อน แล้วต้องเล่น (จะได้เพิ่มทักษะการวาด พิสูทแล้ว จริงเจ้าค่ะ)

25. หมักหลบซ้อนผลงานตามเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ (พวกนี้กลัวแสงค่ะ)

26. วาดออกมาแล้วคนอื่นมองว่าโคตรน่าล่อ เอ้ย! น่ารักเลย! แต่เจ้าตัวกับว่ายังไม่พอ (จริงน่ะๆ อาจารย์ดังๆที่ญี่ปุ่นเองยังคิดแบบนี้เลย)

27. วาด H เป็น แต่ไม่ค่อยอยากวาด แต่ใจก็อยากจะวาดซะครั้ง (ลังเลนิ)

28. เริ่มเก็บสะสมผลงานคนอื่น เพื่อที่จะปรับปรุงผลงานตัว

29. เซอวิดเป็นแนวที่น่าวาดที่สุด . . .

30. ต้องบ้าการ์ตูน (เท่านั้น!)

จบ.

และก็เว็บนั้นก็คือ...
ลองไปอ่านดูแล้วจะรู้ว่าการ์ตูนแนวนี้เป็นอย่างไร...








วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทิปคลิก BACKๆๆๆๆๆ รุงรังจังก๊ะ


ไม่จำเป็นต้องคลิก Back Back Back เมื่อต้องการกลับไปหน้าที่ผ่านมา
คิดสิทำยังไงถึงจะกลับไปหน้าที่เราต้องการอย่างรวดเร็วทันใจ

หลายครั้งที่เราต้องการกลับไปดูหน้าเว็บเพจที่ผ่านมาเราจะคลิกที่ Back ซ้ำหลายๆครั้งจนกว่าจะเจอหน้าเว็บที่เราต้องและต้องเสียเวลาในการโหลดหน้าเว็บแต่ละเว็บกว่าจะถึงหน้าเว็บที่ต้องการ และเป็นที่น่าเสียดายที่ต้องเป็นเช่นนี้ทั้งๆที่ข้างหลัง Back จะมีดาวน์ดรอปลิสบ็อกซ์อยู่ แต่หลายๆคนก็ไม่เคยใช้เลย ซึ่งปุ่มนี้จะช่วยให้เรากลับไปดูหน้าเว็บที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่คลิกแล้วก็เลือกหน้าเว็บเท่านั้น

เรื่องง่ายๆที่คุณก็ทำได้
ตอนแรกเราเห็นก็ยังทึ่งๆนะ (เหมือนกันมะ)
แค่คลิกตรงลูกศรลงข้างbackก็เสร็จ
และที่ขาดไม่ได้
ขอบคุณเว็บนี้ด้วยจร้า
http://www.smiletips.com/Tips/Internettips/IEtips/IEtips8.asp

ทิปการลบข้อมูลDocumentในStart


รายชื่อไฟล์ที่่อยู่ใน Document เป็นรายชื่อที่่ท่านไฟล์,โปรแกรม
หรืองานต่างๆที่ท่านได้ทำผ่านไปแล้ว ระบบ ก็จะทำการบันทึกเอาไว้ที่ Document

ตรงเมนู Start ซึ่งจะทำการเก็บทุกรายละเอียดทุกอย่างที่ท่านได้เข้าไปทำงาน เอาไว้เลยล่ะ
จึงเป็นผลให้คนอื่นสามารถเช็คเครื่องของท่านได้ว่าท่านไ้ด้ทำอะไรไปบ้าง
ซึ่งการเรียกดูทำได้โดยคลิกที่ Start > เลือก Document เท่านี้รายการต่างๆก็จะขึ้นมาแสดงให้ท่านเห็นกันเพียบเลยล่ะครับ เรามาว่ากันเรื่้องลบ Document กันเลยดีกว่าครับ สำหรับ Win98


1. ให้คลิกที่ปุ่ม Start เลือกที่หัวข้อ Setting แล้วคลิกที่ Taskbar and Start menu
2. เมื่อขึ้นหน้าต่างของ Task bar and Start menu Properties ให้ท่านคลิกที่แท็บ Advance
3. จากนั้นคลิกที่ ปุ่ม Clear เท่านี้ก็เป็นการลบเรียบร้อยครับ สำหรับ Win XP1. ให้คลิกขวาตรงพื้นที่ว่างของ Taskbar แล้วเลือก Properties2. คลิกที่แท็บ Start menu จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Customize
4. ในกรณีที่เป็นแบบ Classic Start Menu ให้คลิกที่ปุ่ม Clear ได้เลย

5. ในกรณีที่ท่านใ้ช้เมนูแบบ Start Menu เมื่อท่านคลิกที่Customizeแล้วจะปรกฎหน้าต่างCustomize Start menu ให้ท่านคลิกที่แท็บ Advance จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม Clear List ซึ่งอยู่ด้านล่างสุด แล้วคลิกที่ OK ก็เป็นการลบข้อมูล เรียบร้อยครับ และถ้าท่านไม่ต้องการให้มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ใน Document ให้ท่านคลิกยกเลิกเครื่องหมายถูก หน้ข้อความ List my most recently opened document เท่านี้ก็ข้อมุลของท่านก็ไม่ถูกบันทึกแล้วล่ะ

http://www.smiletips.com/Software/Window/window38.asp
ขอขอบพระคุณยิ่ง ด้วยใจจริงที่กรุณา~ (เอาซะเป๋นเพลงยุวกาชาดเลยนะ)
สำหรับเว็บที่กล่าวมา



คุ

จ๊ะ